1 โครินธ์ – 1 Corinthians บทที่ 3
1 โครินธ์ 3:1 พี่น้องทั้งหลาย เอ้ย ข้อยบ่สามารถที่สิเว้ากับพวกเจ้าคือจั่งเว้ากับผู้ที่อยู่ฝ่ายวิญญาณ แต่ต้องเว้ากับพวกเจ้าคือกับคนผู้ที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ปานเว้ากับคนยังเป็นเด็กน้อยในพระคริสต์
1 โครินธ์ 3:2 คือข้อยต้องเอาน้ำนมมาเลี้ยงพวกเจ้าแทนที่สิเอาแนวกินแบบแข็งของผู้ใหญ่มาเลี้ยง ย้อนว่าพวกเจ้ายังบ่ทันพร้อมที่สิฮับเอาได้ กับเถิงแม้นตอนนี้ พวกเจ้ายังฮับเอาบ่ได้เลย
1 โครินธ์ 3:3 คือ พวกเจ้ายังอยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ย้อนว่าพวกเจ้ากะยังอิจฉากัน กับมีการโต้เถียงแตกแยกกัน ฮั้นแสดงว่าพวกเจ้ากะยังอยู่ฝ่ายเนื้อหนัง แล้วยังใซ้ซีวิตตามนิสัยมนุษย์เก่า บ่แม่นบ้อ
1 โครินธ์ 3:4 ย้อนว่า คนหนึ่งสิเว้าว่า “ข้อยเป็นลูกศิษย์ของเปาโล” แล้วกะมีอีกคนหนึ่งเว้าว่า “ข้อยหนิเป็นลูกศิษย์ของอปอลโล” คั่นเป็นจั่งซี้แล้วบ่แม่นพวกเจ้าอยู่ฝ่ายเนื้อหนังบ้อ
1 โครินธ์ 3:5 เปาโลฮั่นแม่นใผ แล้ว อปอลโล แม่นใผ บ่แม่นเขาเป็นแค่ผู้ฮับใซ้บ้อ ที่มาเว้าข่าวประเสริฐ แล้วพวกเจ้าจั่งได้เซื่อ ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้โปรดกำหนดไว้ให้คู่คนแล้ว
1 โครินธ์ 3:6 คือข้อยเปาโลหนิ ได้มาปลูก แล้วอปอลโลฮั้น ลาวได้มาฮดน้ำ แต่แม่นพระเจ้า เป็นผู้ที่เฮ็ดให้เกิดดอกออกผลทวีขึ้น
1 โครินธ์ 3:7 จั่งซั้น คนที่ปลูกกับคนที่ฮดน้ำกะบ่สำคัญอีหยังดอก แต่แม่นพระเจ้าผู้ที่เฮ็ดให้เกิดดอกออกผลทวีขึ้นฮั้น เป็นผู้ที่สำคัญ
1 โครินธ์ 3:8 บัดนี้ คนที่ปลูกกับคนที่ฮดน้ำกะเป็นพวกเดียวกัน แต่คู่คนกะสิได้ฮับรางวัลเป็นค่าตอบแทนของแต่ละคนตามที่โตได้เฮ็ด
1 โครินธ์ 3:9 คือว่า พวกเฮาทั้งหลายเป็นผู้ฮ่วมงานนำกันกับพระเจ้า แล้วพวกเจ้าเป็นไฮ่นา กับเป็นตึกของพระเจ้า
1 โครินธ์ 3:10 แล้วโดยพระกรุณาธิคุณของพระเจ้าที่เพิ่นได้โปรดให้ข้อยฮั้น ข้อยจั่งวางรากฐานลงแล้ว คือจั่งสถาปนิกผู้ซำนาญ แล้วคนผู้อื่นกะเป็นผู้ก่อกันขึ้น แต่ว่าขอให้แต่ละคนระวังให้ดี ว่าเขาสิก่อขึ้นมาแบบใด
1 โครินธ์ 3:11 ย้อนว่า บ่มีใผสิวางรากฐานอื่นได้อีกเลย นอกจากที่ได้วางไว้แล้ว แล้วรากฐานฮั้น คือพระเยซูคริสต์
1 โครินธ์ 3:12 แล้วคั่นผู้ใดสิก่ออีหยังขึ้นเทิงรากฐานฮั้น บ่ว่าสิก่อด้วยทองคำ เงิน เพชรพลอย ไม้ หญ้าแห้ง หรือเฟืองกะตาม
1 โครินธ์ 3:13 การงานของแต่ละคนสิถืกเปิดเผย ย้อนว่ามื้อที่สิมาฮอดฮั้น สิสำแดงให้เห็นอย่างซัดเจน คือสิถืกเปิดเผยด้วยไฟ แล้วไฟฮั้นสิพิสูจน์ให้เห็นว่าการงานของแต่ละคนมีคุณค่าส่ำใด
1 โครินธ์ 3:14 คั่นการงานของผู้ใดที่ก่อขึ้นฮั้นสิทนไฟคงอยู่ได้ ผู้ฮั้นกะสิได้ฮับรางวัลเป็นค่าตอบแทน
1 โครินธ์ 3:15 แล้วคั่นการงานของผู้ใดถืกเผาไหม้ไป ผู้ฮั้นกะสิมีการเสียหาย แต่โตเขาเองกะสิรอดพ้น คือจั่งรอดจากไฟ
1 โครินธ์ 3:16 พวกเจ้าบ่ฮู้บ้อ ว่าเจ้าเป็นวิหารของพระเจ้า แล้วพระวิญญาณของเพิ่นได้สถิตอยู่ในพวกเจ้า
1 โครินธ์ 3:17 แล้วคั่นแม่นผู้ใดทำลายวิหารของพระเจ้า พระเจ้ากะสิทำลายผู้ฮั้น ย้อนวิหารของพระเจ้าเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ แล้วพวกเจ้ากะเป็นวิหารฮั้นเอง
1 โครินธ์ 3:18 อย่าให้ผู้ใดหลอกลวงโตเองเด้อ คือคั่นผู้ใดในพวกเจ้าคึดว่าโตเองเป็นคนมีปัญญาตามยุคนี้ จั่งให้ผู้ฮั้นยอมเป็นคนโง่จั่งสิเป็นคนมีปัญญาอันแท้จริงได้
1 โครินธ์ 3:19 ย้อนว่า ปัญญาของโลกนี้เป็นความโง่สำหรับพระเจ้า ด้วยมีคำเขียนไว้แล้วว่า “เพิ่นจับพวกเจ้าปัญญาด้วยกลอุบายของเขาเอง”
1 โครินธ์ 3:20 แล้วมีคำเขียนไว้อีกว่า “พระผู้เป็นเจ้าเพิ่นหยั่งฮู้เถิงความนึกคึดของพวกเจ้าปัญญา ว่ามันบ่เป็นสาระประโยชน์อีหยังเลย”
1 โครินธ์ 3:21 จั่งซั้นอย่าให้ผู้ใดยกย่องอวดในโตคน ย้อนว่าเมิ้ดคู่แนวเป็นของพวกเจ้าอยู่แล้ว
1 โครินธ์ 3:22 แล้ว บ่ว่าสิเป็นเปาโลกะดี อปอลโล กะดี เคฟาส กะดี หรือโลก หรือซีวิต หรือความตาย หรือเป็นแนวในปัจจุบันนี้ หรือแนวที่สิมีมาในอนาคตกะตาม แนวหมู่นี้กะเป็นของพวกเจ้าเมิ้ดอยู่แล้ว
1 โครินธ์ 3:23 แล้วพวกเจ้าเป็นของพระคริสต์ แล้วพระคริสต์กะเป็นของพระเจ้า
////////// ////////// //////////